สวัสดีค่ะ ชื่อต้านะคะ ต้าอ่านกระทู้รีวิวตัดกรามของคนอื่นมามากแล้ว ครั้งนี้ถึงคราวเป็นกระทู้รีวิวของต้าบ้าง วันนี้ต้าจะมารีวิวผ่าตัดมุมกรามค่ะ กระดูกกรามใหญ่หน้าไม่เท่ากัน ซึ่งรีวิวผ่ากรามนี้ก็จะตอบโจทย์คนที่กำลังหาข้อมูลว่าผ่าตัดกรามราคาเท่าไหร่และจะไปตัดกรามที่ไหนดีนะคะ
อันนี้เป็นภาพก่อนตัดมุมกรามของเราเองค่ะ จะเห็นได้ชัดว่ากระดูกกรามอีกข้างไม่เท่ากับอีกข้าง อีกข้างมีขนาดใหญ่กว่า ด้วยความที่กรามใหญ่แบบนี้ เลยอยากลดกรามให้หน้าเรียวถาวร เพราะต้าไม่มั่นใจเลยค่ะ เลยไม่ค่อยมัดผม เวลาถ่ายรูปก็จะเอียงๆ ไม่กล้าถ่ายหน้าตรง
นี่ค่ะรูปเซลฟี่ ก็อาศัยเอียงๆหน้าเอาค่ะ หลบมุมไม่ให้เห็นว่าหน้าใหญ่ แต่ก็ยังเห็นกระดูกกรามชัดอยู่ดี ต้ามีความคิดที่จะผ่าตัดมุมกรามมาสักพักแล้ว ก็มีแอบคิดว่าจะไปศัลยกรรมกรามเกาหลี แต่ก็กลัวคุยไม่รู้เรื่อง ไปอยู่นู่นคนดูแลก็ไม่มี อีกอย่างค่าใช้จ่ายเยอะเกินไปโดยใช่เหตุ ต้าเลยคิดว่าจะผ่ากรามในไทยดีกว่า แล้วจะตัดกรามที่ไหนดีล่ะทีนี้ ต้าก็เริ่มหาอ่านรีวิวผ่าตัดมุมกราม หลังจากอ่านรีวิวผ่ากราม ตอนนั้นก็ลังเลว่าจะ
ตัดกรามที่ไหนดี ระหว่าง ตัดกราม Vertex ตัดกรามยันฮี ตัดกรามเลอลักษณ์ ตัดกราม slc
ซึ่งทุกที่ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป เพราะบางทีผ่าตัดกรามราคาสูงกว่า บางทีตัดกรามราคาถูกกว่า แต่นอกจากราคาตัดกรามแล้วยังมีเทคนิคการผ่ากรามที่เราต้องพิจารณาอีก
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมัดผม เราจะปล่อยผม แต่ดูสิ ~ กรามใหญ่มากเลยยยย ฮืออออ ~ T^T
ซึ่งต้าก็ไปศึกษาแล้วว่าเทคนิคตัดกราม Vertex , ตัดกรามยันฮี , ตัดกรามเลอลักษณ์ , ตัดกราม slc ตัวเลือกตอนแรกที่ต้าจะเลือกเนี่ยเขามีวิธีผ่าตัดกันยังไง หมออะไร พักฟื้นกี่วัน ซึ่งสุดท้ายแล้วต้าไม่ขอพูดถึงที่อื่นนะคะ ต้าจะขอพูดถึงคลินิกลดกรามที่ต้าเลือก นั่นก็คือ “ผ่าตัดมุมกราม Vertex Clinic ” ค่ะ สาเหตุที่ต้าเลือกที่ Vertex Clinic คือต้าบอกเลยว่าเพราะ เทคนิคผ่าตัดมุมกรามล้วนๆค่ะ ซึ่งที่ Vertex Clinic จะแตกต่างกับคลินิกอื่นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ เพราะที่นี่ใช้เทคนิค Nemotec V ซึ่งจะตัดกระดูกชิ้นกรามของเราออกได้ตามที่วางแผนไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ 3 มิติ หมอจะมองเห็นเส้นประสาทของเรา ซึ่งข้อดีของมันที่ต้าสัมผัสได้เลยจริงๆก็คือ ผลหลังทำตรงกับที่เราปรึกษาหมอไว้ และก็บวมช้ำน้อยมากกกกกกก ก่อนที่จะเข้าเรื่องผลลัพธ์หลังทำ ขอพูดถึงตอนปรึกษาต่ออีกซักหน่อย คือตอนหมอให้ดูรู้สึกว๊าวมากเลยค่ะ มันเป็นภาพ 3 มิติ จะมีภาพจำลองหน้าแบบมีเนื้อหนัง และก็แบบกะโหลกโครงหน้า อันนี้จะเห็นได้หลายทิศทางเลยนะคะ หมอก็หมุนๆให้ดู แล้วก็มาร์คๆให้ดูว่าตอนนี้เป็นแบบนี้นะ หลังผ่าตัดแล้วจะเป็นแบบนี้ๆนะ ตรงนี้เป็นเส้นเลือดสำคัญ เราจะตัดกระดูกกรามตรงนี้ จะหลีกเลี่ยงเส้นเลือดสำคัญตรงนี้นะ ซึ่งเราก็โอเคกับแผนการผ่าตัดที่หมอวางแผนไว้ให้ เพราะความต้องการของเราคือ แค่อยากให้กรามทั้ง 2 ข้างเท่ากันแค่นั้นค่ะ ส่วนเรื่องหน้าเรียวนี่ถือเป็นผลพลอยได้ เพราะไม่อยากได้เรียวมาก อยากได้เรียวแบบธรรมชาติๆพอ
การวางแผนผ่าตัดด้วยเทคนิค Nemotec V (คอมพิวเตอร์ 3 มิติ)
เป็นการวางแผนการผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำร่อง 3 มิติ เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมกับคนไข้ในการผ่าตัด ลดโอกาสกระทบกับอวัยวะสำคัญที่อาจทำให้เกิดอันตรายได้ คนไข้จะได้เห็นรูปจำลองใบหน้าปรียบเทียบก่อนและหลังการผ่าตัด…
ภาพตอนปรึกษาคุณหมออมรพงษ์ค่ะ ที่หน้าจอเป็นภาพสแกนกะโหลกของต้าเอง จริงๆมันจะมีภาพสแกนอีกแบบนึงด้วยนะคะ แบบเป็นภาพสีๆ แต่ไม่ได้ถ่ายมา ขอคุณหมอถ่ายมาตอนปรึกษาเสร็จ แล้วคุณหมอเปิดภาพนี้ค้างไว้พอดี ^^
พอถึงวันผ่าตัด ต้ามีนัดผ่าตัดแต่เช้าเลยค่ะ ตื่นเต้นมากกกกกก ที่สำคัญเลย ไม่พูดไม่ได้ Vertex Clinic ดมยาสลบโดยวิสัญีแพทย์นะคะ แบบ 1 ต่อ 1 เลย ก็คือเหมือนผ่าตัดที่โรงพยาบาลใหญ่ๆ ที่มีหมอวิสัญญีประจำอยู่แต่ละห้อง (เรื่องหมอดมยา เพื่อนๆต้องดูดีๆนะคะว่าเป็นวิสัญญีแพทย์แบบ 1 ต่อ 1 หรือวิสัญญีแพทย์มีคนเดียว แต่ใช้หลายห้อง) นี่คืออีกเหตุผลนึงที่ต้าเลยเชื่อใจที่นี่ด้วยค่ะ
ภาพกระดูกกรามของต้าเองค่ะ ต้าแคปมาจากที่ทางคลินิกไลฟ์สดในเฟสบุ๊คค่ะ ตัวหัวกะโหลกสีขาวเป็นโมเดลกะโหลกที่คุณหมอสแกน
อันนี้ก็ภาพกระดูกชิ้นกรามของต้าเองเช่นเดียวกัน แต่ขอพี่ทางคลินิกมา ตัวกระดูกกราม สามารถขอทางคลินิกเอากลับบ้านได้นะคะ
หลังทำเสร็จ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ชิลจริงๆ ความเจ็บ 100 ต้าให้แค่ 10 คือไม่เจ็บเลย ตอนต้าผ่าฟันคุด ต้ายังรู้สึกโอดโอยกว่าอีก ให้ภาพพูดแทนแล้วกันค่ะ หลังผ่าตัดทันที ต้ายังชู2 นิ้ว ยิ้มได้ อย่างที่เห็น และที่สำคัญอีกเรื่อง เพื่อนๆสังเกตมั้ยคะว่า ผ่าตัดกรามที่ Vertex Clinic ไม่เหมือนที่อื่นยังไง ติ๊กต่อกๆๆๆ ดูภาพต้าแล้วสังเกตดูสิคะ พร้อมแล้วไปดูเฉลยกันเลย ว่าเพื่อนๆจะเดาถูกมั้ย???
นั่นก็คือ “ไม่ใส่สายเดรนเลือด” ค่ะ สายเดรนเลือดก็คือสายระบายเลือดคลั่งให้ออกมาก จะเป็นสายยางและมีกระปุกเล็กๆ ห้อยอยู่คู่กัน ซึ่งที่นี่ไม่ต้องใส่เพราะว่า เทคนิค Nemotec V ที่คุณหมอใช้การผ่าตัดเราเนี่ย อย่างที่บอกตอนแรก คุณหมอวางแผนผ่าตัดเราด้วยเทคนิคนี้จะเห็นเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญ ดังนั้น เลือดก็ออกน้อยกว่า จึงไม่ต้องใส่สายเดรนเลือดนั่นเองจ้า
พันหน้าอยู่ 1 วันเต็ม วันรุ่งขึ้น (วันที่ 2) เราก็ไปถอดผ้า ที่เห็นในภาพนี้เป็นตอนต้าทำ Smart light ตรงนี้ต้าซื้อคอร์สเพิ่มค่ะ มันเป็นการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ ลดบวม ให้เราหายเร็วขึ้น ตอนนั้นมีโปรโมชั่นซื้อ 3 แถม 3 Smart light นี่สามารถทำบ่อยได้ ทำทุกวันก็ได้ค่ะอยู่ที่เราสะดวก แต่ของต้ามีก่อนทำ 1 ครั้ง หลังทำทันที 1 ครั้ง จากนั้นก็ทำอาทิตย์ละครั้งค่ะ จนครบ 6 ครั้ง
ในภาพเป็นวันที่ 3 ค่ะ หลังจากถอดผ้าวันที่ 2 แล้ว ต้าก็ใส่ซัพพอร์ตรัดหน้าไว้ตลอด เพื่อให้หายบวมเร็วขึ้นและหน้าก็กระชับเร็วขึ้นค่ะ
ในภาพวันที่ 5 ค่ะ รัดหน้าวนไป ยิ่งรัดยิ่งดีค่ะ เห็นมั้ยคะทุกคน บวมช้ำน้อยมากจริงๆ นี่คือข้อดีของการผ่าตัดลดกรามด้วยเทคนิค Nemotec V ค่ะ เพราะผ่าตัดกรามแบบทั่วไป ปกติ 5 วันยังบวมเป่งอยู่เลย รู้สึกคิดไม่ผิดที่เลือกเทคนิคนี้ค่ะ
เผลอแป๊ปๆ 7 วันแล้วค่ะ ครบอาทิตย์แล้ว ยังบวมๆอยู่หน่อยๆ แต่ถือว่าบวมช้ำน้อยมากจริงๆแหละเนอะ เดินไปหน้าปากซอยยังไม่มีใครรู้เลยค่ะว่าตอนนี้เรากำลังพักฟื้นเพราะเพิ่งผ่าตัดมาไม่ถึง 1 สัปดาห์ 555
ภาพนี้ 14 วันแล้วค่ะ
เทียบก่อน-หลัง 14 วันซะหน่อย
OMG! เรียวแล้ววววววววว มุมกรามที่ใหญ่ๆคือหายไปก่อน คือเลิ๊ฟฟฟฟ ~ ชอบมากกก!!! ♥
เทียบก่อน-หลัง 1 เดือน
มุมกรามออกไปชัดเจน นี่คือฝั่งของข้างที่ใหญ่ ข้างที่เป็นปัญหาของต้าค่ะ
ครบ 3 เดือนแล้ววววว ~
วันหยุดไปเที่ยวมา มีความสุขมากกกก กล้าถ่ายรูปมากขึ้น ที่สำคัญตั้งแต่ผ่าตัดลดกราม เทคนิค Nemotec V มา บอกเลยว่ามัดผมทุกวันเลยจ้า 555
ให้มันเป็นสีชมพูวววววว ~ #กราม3เดือนละมุนมาก
4 เดือนแล้วค่ะ หน้าเรียวมาก ชอบ! เดี๋ยวนี้ต้าถ่ายได้ทุกมุมเลย วันนี้มาเปลี่ยนผมสีชมพูฟรุ้งฟริ้ง เป็นผมสีดำธรรมชาติ
ปัจจุบันครบ 5 เดือนแล้วค่ะ
ใครที่กำลังหาที่ผ่าตัดลดกราม แนะนำเลยค่ะ Vertex Clinic รีวิวแน่น หมอฝีมือดี บริการประทับใจ
♥ Tel : 02-109-9999
♥ Line : @Vertexclinic (มี @ ด้วย)
♥ Facebook : Vertex Clinic ผู้นำศัลยกรรมโครงหน้าขากรรไกรและทันตกรรม
♥ Instagram : vertexclinic
♥ Website : www.vertexclinic.com