Genioplasty

เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง ทำคาง แก้คาง เสริมคางหน้าเรียวได้สัดส่วน

คางถือว่าเป็นส่วนสำคัญของใบหน้า โดยเฉพาะกับคนที่อยากมีใบหน้าที่เรียวสวย แต่ถ้าหากมีคางที่ทู่มน คางกว้าง คางสั้น ใบหน้า จะดูมีเสน่ห์และสมส่วนไปได้อย่างไร ดังนั้นจึงทำให้คนนิยมไปทำศัลยกรรมคางกันเป็นจำนวนมาก การทำคางจึงเป็นจุดเริ่มต้นของสาวๆหรือหนุ่มๆที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว หรือต้องการมีใบหน้าที่สมส่วนมากขึ้น

ความแตกต่างระหว่างการเสริมคางซิลิโคนและกระดูกตัวเอง

วิธีการ / ปัจจัยต่างๆ	เสริมคางด้วยซิลิโคน	เสริมคางกระดูกตัวเอง
การแก้ไขปัญหาคาง	เป็นการวางซิลิโคนตามแนวรูปกระดูกคางเดิมเท่านั้น หากคนไข้มีลักษณะกระดูกคางที่กว้าง ซิลิโคนที่แปะทับลงไปหรือเสริม จะทำให้คางของคนไข้ดูกว้างกว่าเดิม	แก้ไขปัญหา คางสั้น คางหุบ คางถอย คางยื่นและปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับคาง ได้ดีกว่าการเสริมคางแบบซิลิโคน
การพักฟื้น	การพักฟื้นระยะสั้น คนไข้จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าการเสริมคางแบบกระดูกตัวเอง	คนไข้จะฟื้นตัวในระยะนานกว่าการเสริมคางด้วยซิลิโคนไม่มากนัก
รูปคางที่ได้	รูปคางที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติน้อยกว่า เนื่องจากใช้วัสดุสังเคราะห์ ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับรูปคางเดิม	รูปทรงคางจะดูธรรมชาติรับกับส่วนกราม สามารถลดความกว้างของคางได้และเหลาให้คางเรียวลงได้
ผลลัพธ์ระยะยาว	เมื่อเวลาผ่านไป เกิดปัญหาคางห้อยจากซิลิโคน รวมถึงอาจเกิดปัญหาซิลิโคนกัดกินกระดูกตัวเอง และไม่มีการรับรองว่าวัสดุสังเคราะห์จะอยู่แบบถาวรและปลอดภัย	ผลลัพธ์คงอยู่ถาวรเนื่องจากเป็นกระดูกตัวเอง ไร้ปัญหาคางห้อยหรือซิลิโคนกัดกินกระดูก

หากคนไข้มีคำถามว่าควรเสริมคางแบบไหนดี ถึงจะเหมาะสมกับตนเอง การเสริมคางไม่ว่าจะเป็นซิลิโคนหรือกระดูกตัวเอง จะมีความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ปรึกษาศัลยแพทย์ด้านโครงหน้าก่อนการตัดสินใจจะดีที่สุด

แต่อย่างไรก็ตาม การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง (Genioplasty) ช่วยทำให้ช่วงคางเรียว ลดความกว้างของคาง และแก้ไขปัญหาคางถอยเกินไป หรือคางยื่นเกินไปให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ เป็นการตัดเป็นรูปตัว T W ตามความเหมาะสมของเคสนั้นๆ ในบางครั้งอาจใช้กระดูกที่เหลือจากการตัดกรามมาต่อบริเวณปลายคางได้ด้วย กรณีที่คนไข้ทำการตัดกรามร่วมด้วยและคางมีความสั้นเกินไป

วิธีการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

• งดเว้นยาแอสไพริน, ไอบิวโพรเฟน และวิตามิน ประมาณ 1 อาทิตย์ ก่อนผ่าตัด
• หากเป็นการเสริมคางแบบใช้กระดูกตัวเอง งดน้ำ งดอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8-10 ชม. เนื่องจากเป็นการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
• แปรงฟัน บ้วนปากให้สะอาด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
• หากมีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการรับการผ่าตัด

วิธีการดูแลหลังการผ่าตัด

• นอนพักผ่อนให้ศีรษะอยู่ในตำแหน่งที่สูง
• รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
• ประคบเย็นที่บริเวณคาง
• รับประทานอ่อนเหลว ในระยะ 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัด
• บ้วนปากด้วยน้ำสะอาด
• เลี่ยงกิจกรรมกระทบกระเทือนต่อแผล
• งดการเท้าคาง, บีบจับคางเล่น เป็นระยะเวลา 1 เดือน

“ในกรณีตัดกราม กระดูกที่ใช้ในการทำคาง มาจากกระดูกที่ถูกตัดออกไปในขั้นตอนการเหลากราม โดยแพทย์จะทำการนำกระดูกมาเหลาให้ได้ขนาดที่เหมาะสมและต่อเข้ากับกระดูกที่คางที่มีมิติเข้ากับรูปหน้า”

Nemotec V

ความแตกต่างระหว่างการผ่าตัดแบบธรรมดาและการผ่าตัดแบบ Nemotec V

---

วิธีการผ่าตัด	การผ่าตัดแบบ Nemotce V	การผ่าตัดแบบธรรมดา
การจำลองโมเดลก่อนผ่าตัด	สามารถจำลองโครงสร้างใบหน้า ก่อนและหลังผ่าตัดของคนไข้ เป็นภาพ3มิติ เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน	สามารถจำลองโมเดลแบบพิมฟันธรรมดาซึ่งจะเห็นเพียงการสบฟัน ไม่เห็นโครงกระดูกขากรรไกร
ความละเอียด	การผ่าตัดมีความละเอียดสูงกว่าการผ่าตัดระบบธรรมดา	การผ่าตัดมีความแม่นยำต่ำกว่าการผ่าตัดโดยใช้เทคโนโลยี Nemotec V
ความเสี่ยง	มีความเสี่ยงที่จะโดนอวัยวะสำคัญและเส้นประสาทหรือหลอดเลือด ต่ำมาก เนื่องจากมีการนำร่องการผ่าตัดอย่างละเอียด	มีความเสี่ยงที่จะโดนอวัยวะสำคัญและเส้นประสาทหรือหลอดเลือด สูงกว่า การใช้กว่าการผ่าตัดโดยใช้เทคโนโลยี Nemotec V
อาการบวม และ การพักฟื้น	อาการบวมน้อยและฟักฟื้นไวกว่าการผ่าตัดระบบธรรมดา	อาการบวมและฟักฟื้นมากกว่าการผ่าตัดโดยใช้เทคโนโลยี Nemotec V

การทำงานของ เทคโนโลยี Nemotec V คือ สามารถจำลองโครงสร้างใบหน้าหลังผ่าตัดของคนไข้ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดออกมาเป็นภาพ 3 มิติ ได้ ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างใบหน้าได้อย่างละเอียดมากขึ้น และยังทำให้คนไข้เห็นผลลัพธ์ก่อนหลัง ร่วมปรึกษา วางแผนการรักษา แก้ไขปัญหาโครงหน้าของตนเองกับแพทย์ได้

ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการผ่าตัดโครงสร้างใบหน้า, ช่องปาก และทางเดินหายใจไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งทำให้ผลการรักษาออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น หากผ่าตัดโดยใช้ระบบธรรมดา (Manual) จะใช้โมเดลจำลองแทน ซึ่งจะเป็นแบบพิมพ์ฟันแล้วนำมาประกอบกับขากรรไกรจำลอง ทำให้เห็นเพียงการสบฟัน จะไม่เห็นโครงกระดูกขากรรไกร จึงมีความแม่นยำน้อยกว่า เสี่ยงต่อการโดนอวัยวะสำคัญและเส้นประสาทหรือหลอดเลือดได้

Vertex Clinic เป็นศูนย์ศัลยกรรมความงามที่มุ่งเน้นการแก้ไขโครงหน้าขากรรไกรและทันตกรรม

โดยที่จะคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพเป็นอันดับแรก มีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านการปรับโครงหน้า ช่องปาก และแม็กซิลโลเฟเชียล นำโดย ทพ.ดร. อมรพงษ์ วชิรมน ผู้มีประสบการณ์ผ่าตัดและฝึกฝนแพทย์หลายท่านมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงการรักษาผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และรักษาอาการพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะชนิดรุนแรง (Craniofacial Disorder) อีกทั้งยังเป็น 1 ในทีมแพทย์จากรายการ Let Me In Thailand มาตลอดทั้ง 4 ซีซัน เปลี่ยนแปลงใบหน้าและพลิกชีวิตคนไข้ให้เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดมาหลายต่อหลายเคส

มาตรฐาน คือสิ่งที่สำคัญ

การผ่าตัดที่ได้รับมาตรฐานนั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย เป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงเป็นอันดับแรก เพราะทุกๆเคส เราใส่ใจ ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างเหมาะสม และเป็นส่วนตัว เราให้บริการเป็นอย่างดี ตั้งใจให้บริการให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นทุกๆเคสเรามีการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การดำเนินการผ่าตัด รวมไปถึงการดูแลคนไข้หลังผ่าตัด คนไข้จะต้องได้รับความพึงพอใจ เพราะเราตั้งใจให้บริการและดูแลมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

วิธีศัลยกรรมแก้คางทำได้อย่างไรบ้าง | ควรเสริมคางแบบไหนดี ? | เสริมคางด้วยกระดูกตัวเองคืออะไร I เสริมคางที่ไหนดี l เสริมคางแต่ละแบบราคาเท่าไหร่ | เสริมคางรีวิวจากลูกค้า Vertex ?

ข้อสงสัยต่างๆนี้ เกี่ยวกับการผ่าตัด ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด เรายินดีบริการให้ให้คำแนะนำ คำปรึกษาฟรี เพื่อบอกปัญหาและรายละเอียดต่างๆ ก่อนรับการผ่าตัดจริงและวางแผนการผ่าตัด นำทีมโดย หมอตี๊ อมรพงษ์ Let Me In Thailand ด้วยเทคนิค Nemotec V เทคโนโลยีช่วยนำร่องการผ่าตัดโครงหน้าและขากรรไกร

มาร่วมปรึกษา วางแผนการรักษา แก้ปัญหาเกี่ยวกับคาง กับแพทย์ที่ Vertex Clinic