รู้หรือไม่? ขากรรไกรค้างบ่อย เกิดจากอะไร? สาเหตุ อาการ และวิธีแก้ไข

ขากรรไกรค้างบ่อย

ขากรรไกรค้างบ่อย เกิดจากอะไร? สาเหตุ อาการ และวิธีแก้ไข

ขากรรไกรค้างคืออะไร?

ขากรรไกรค้าง คือ ภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถเปิดหรือปิดปากได้ตามปกติ เนื่องจากเกิดความผิดปกติในข้อต่อขากรรไกร (Temporomandibular Joint – TMJ) หรือเนื้อเยื่อรอบ ๆ ข้อต่อ ภาวะนี้จัดอยู่ในกลุ่มของ ความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร (Temporomandibular Disorders: TMDs) ซึ่งพบได้บ่อยในคนวัยทำงานและวัยรุ่นตอนปลาย

กลไกการทำงานของข้อต่อขากรรไกร (TMJ)

ข้อต่อขากรรไกร (Temporomandibular Joint: TMJ) เป็นหนึ่งในข้อต่อที่ซับซ้อนที่สุดในร่างกายมนุษย์ เนื่องจากต้องทำหน้าที่หลายอย่างพร้อมกัน ทั้งการเปิด–ปิดปาก การเคลื่อนไปด้านหน้า–หลัง และการเคลื่อนไปด้านข้าง ซึ่งจำเป็นต่อการ พูด เคี้ยว กลืน และการแสดงสีหน้า

dislocation_skull

โครงสร้างหลักของ TMJ

ข้อต่อขากรรไกรมีส่วนประกอบสำคัญดังนี้

  • Condyle ของกระดูกขากรรไกรล่าง (Mandibular condyle) : ส่วนหัวของกระดูกที่ประกบกับฐานกะโหลก
  • Glenoid fossa ของกระดูกขมับ (Temporal bone) : เบ้ากระดูกที่รองรับ condyle
  • Articular disc (หมอนรองข้อต่อ) : แผ่นกระดูกอ่อนรูปทรงสองชั้น ทำหน้าที่ดูดซับแรง ลดการเสียดสี และช่วยให้การเคลื่อนไหวราบรื่น
  • Ligaments และ capsule : ทำหน้าที่ประคองข้อต่อและจำกัดการเคลื่อนไหวเกินขอบเขต
  • กล้ามเนื้อบดเคี้ยว (Masticatory muscles) เช่น Masseter, Temporalis, Lateral และ Medial pterygoid มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนขากรรไกร

กลไกการเคลื่อนไหว

  • การหมุน (Rotation) : เมื่อเริ่มอ้าปาก Condyle จะหมุนรอบแกนใน fossa
  • การเลื่อน (Translation) : เมื่ออ้าปากกว้าง Condyle และ disc จะเลื่อนไปด้านหน้าเข้าสู่ articular eminence
  • การเคลื่อนไปด้านข้าง (Lateral excursion) : ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร โดยขากรรไกรจะขยับซ้าย–ขวา
  • การปิดปากและกัดฟัน (Occlusion) : กล้ามเนื้อ Masseter และ Temporalis หดตัวเพื่อให้ฟันสบกันแน่น

อาการที่มักพบเมื่อขากรรไกรค้าง

  • อ้าปากได้จำกัด
    ผู้ป่วยมักอ้าปากได้ไม่กว้าง บางรายเปิดได้เพียง 2–3 เซนติเมตร (ปกติ 4–5 เซนติเมตร) และในกรณีรุนแรงอาจเปิดไม่ได้เลย คล้ายมีสิ่งมากีดขวาง
  • รู้สึกติดหรือสะดุดเวลาเคลื่อนขากรรไกร
    บางครั้งมีอาการ “เปิดได้แล้วติด” หรือ “ปิดไม่สนิท” เนื่องจากหมอนรองข้อเคลื่อนและไม่กลับตำแหน่ง
  • อาการปวดข้อต่อขากรรไกร
    มักปวดบริเวณหน้าหู แก้ม ขมับ หรือร้าวไปถึงศีรษะและคอ อาการปวดมักรุนแรงขึ้นเมื่อเคี้ยวหรืออ้าปาก
  • เสียงผิดปกติในข้อต่อ (Clicking / Popping / Crepitus)
    หากเป็น Disc displacement with reduction จะมีเสียง “คลิก” ชัดเจน แต่ถ้า Without reduction มักไม่มีเสียง แต่จะรู้สึกติดขัดแทน
  • ขากรรไกรเบี้ยวเวลาพูดหรือเคี้ยว
     เมื่ออ้าปาก ขากรรไกรมักเอียงไปด้านที่มีปัญหา (deflection)
  • อาการร่วมอื่น ๆ
     เช่น หูอื้อ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะเรื้อรัง เคี้ยวอาหารลำบาก หรือกล้ามเนื้อขากรรไกรล้า
asian-woman-was-sick

สาเหตุที่ทำให้ขากรรไกรค้างบ่อย

1. ปัญหาข้อต่อขากรรไกร (Temporomandibular Joint Disorder: TMD)

TMD เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการเกิดขากรรไกรค้าง โดยเฉพาะเมื่อมี การเคลื่อนของหมอนรองข้อ (Disc displacement)

  • หากเป็น with reduction จะมีเสียง “คลิก” เมื่ออ้าปาก แต่ยังเคลื่อนไหวได้
  • หากเป็น without reduction หมอนรองข้อจะไม่กลับตำแหน่ง ทำให้เกิดภาวะ Closed lock หรือขากรรไกรค้าง อ้าปากได้ไม่เต็มที่

2. กล้ามเนื้อขากรรไกรหดเกร็ง

กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการเคี้ยว เช่น Masseter, Temporalis และ Pterygoid อาจหดเกร็งผิดปกติ (muscle spasm) ทำให้เคลื่อนไหวขากรรไกรได้ไม่เต็มที่ เกิดอาการติดหรือล็อกได้

  • มักสัมพันธ์กับความเครียด การนอนกัดฟัน หรือใช้งานขากรรไกรมากเกินไป
  • ผู้ป่วยมักมีอาการปวดตึงร่วมด้วย

3. การเคี้ยวหรืออ้าปากผิดวิธี

  • อ้าปากกว้างเกินไป เช่น เวลา หาว กินอาหารชิ้นใหญ่
  • เคี้ยวข้างเดียว ทำให้เกิดแรงกดไม่สมดุล
  • กัดของแข็งหรือเหนียวบ่อย ๆ เช่น น้ำแข็ง เนื้อแห้ง กาวหมากฝรั่ง

4. พฤติกรรมเสี่ยง เช่น กัดฟัน กัดเล็บ

พฤติกรรมที่ทำให้ขากรรไกรทำงานหนักอย่างผิดธรรมชาติ เช่น

  • Bruxism (การนอนกัดฟัน) → ทำให้เกิดแรงกดสูงต่อ TMJ
  • กัดเล็บ กัดดินสอ เคี้ยวของแข็งเล่น → สร้างแรงกดและแรงเสียดทานต่อข้อต่อ
  • นั่งเท้าคางนาน ๆ → ทำให้แรงกดตกลงบน TMJ ฝั่งเดียว

พฤติกรรมเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิด TMD และ jaw locking ได้ในระยะยาว

5. อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ

แรงกระแทกหรือการบาดเจ็บที่ขากรรไกรและใบหน้า สามารถทำให้เกิดภาวะค้างได้ เช่น

  • อุบัติเหตุรถชนที่กระแทกคาง
  • การเล่นกีฬาที่มีการปะทะ เช่น มวย ฟุตบอล บาสเกตบอล
  • การถอนฟันหรือผ่าตัดที่ต้องอ้าปากนาน เช่น ฟันคุด

การบาดเจ็บเหล่านี้อาจทำให้เกิด การอักเสบ ฉีกขาดของหมอนรองข้อ หรือการเคลื่อนของกระดูก จน TMJ ทำงานผิดปกติ

วิธีแก้ไขและการรักษาขากรรไกรค้างบ่อย

การรักษาภาวะ ขากรรไกรค้าง ขึ้นอยู่กับสาเหตุ ความรุนแรง และความถี่ของการเกิดอาการ โดยสามารถแบ่งได้เป็นการดูแลเบื้องต้นที่บ้าน การรักษาทางการแพทย์ และการผ่าตัดในกรณีที่จำเป็น

การดูแลเบื้องต้นด้วยตนเอง (Self-care)

เหมาะกับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงหรือเพิ่งเริ่มเป็น

  • ประคบร้อน–ประคบเย็น ช่วยลดอาการปวดและเกร็งของกล้ามเนื้อ
  • นวดกล้ามเนื้อขากรรไกร โดยใช้นิ้วกดคลึงเบา ๆ บริเวณกล้ามเนื้อ Masseter และ Temporalis
  • ฝึกอ้าปาก–หุบปากเบา ๆ (Jaw exercises) เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของ TMJ
  • หลีกเลี่ยงการอ้าปากกว้างเกินไป เช่น กินอาหารชิ้นเล็ก เคี้ยวช้า ๆ
  • ลดความเครียด เพราะความเครียดสัมพันธ์กับการนอนกัดฟันและกล้ามเนื้อหดเกร็ง

การรักษาด้วยยา

แพทย์อาจสั่งใช้ยาในกรณีที่มีอาการรุนแรงหรือปวดมาก

  • ยาคลายกล้ามเนื้อ (Muscle relaxants) เพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ
  • ยาแก้อักเสบและลดปวด (NSAIDs) เช่น Ibuprofen เพื่อลดอาการบวมและเจ็บ
  • ยาลดความวิตกกังวล ในกรณีที่ภาวะนี้สัมพันธ์กับความเครียดเรื้อรัง

การรักษาด้วยวิธีทางทันตกรรม

หากสาเหตุเกิดจาก พฤติกรรมกัดฟันหรือการสบฟันผิดปกติ

  • ใส่เฝือกสบฟัน (Occlusal splint / Night guard) ป้องกันแรงกดบนข้อต่อในระหว่างนอน
  • การปรับสบฟัน (Occlusal adjustment) เพื่อให้ฟันสบกันอย่างสมดุล
  • กายภาพบำบัดข้อต่อขากรรไกร (TMJ physical therapy) เช่น การใช้เครื่องมือยืดกล้ามเนื้อ หรือ ultrasound therapy

การรักษาเฉพาะทาง

ในผู้ป่วยที่มีภาวะ ขากรรไกรค้างซ้ำ ๆ หรือรุนแรง

  • การฉีดยาเข้าข้อต่อ (Intra-articular injection) เช่น Hyaluronic acid หรือ Corticosteroid เพื่อบรรเทาการอักเสบ
  • Arthrocentesis → การล้างข้อต่อขากรรไกรด้วยน้ำเกลือเพื่อลดการอักเสบและเคลื่อนหมอนรองข้อ
  • Arthroscopy → ใช้กล้องส่องข้อต่อเพื่อตรวจและแก้ไขปัญหาภายใน TMJ
  • Open joint surgery → การผ่าตัดเปิดเพื่อซ่อมแซมหรือเปลี่ยนตำแหน่งหมอนรองข้อ (ใช้เฉพาะรายที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่สำเร็จ)

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมระยะยาว

การรักษาที่ได้ผลต้องมาพร้อมการปรับพฤติกรรมเพื่อลดการเกิดซ้ำ ได้แก่

  • เลิกกัดฟัน กัดเล็บ หรือกัดของแข็ง
  • หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง
  • ปรับท่านั่ง–นอน ไม่เท้าคางบ่อย ๆ
  • ฝึกการผ่อนคลาย เช่น โยคะ การหายใจลึก ๆ

สรุป

ภาวะ ขากรรไกรค้าง เป็นปัญหาที่หลายคนอาจมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วสามารถส่งผลต่อ การเคี้ยว พูด การนอนหลับ และคุณภาพชีวิตโดยรวม ภาวะนี้เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของ ข้อต่อขากรรไกร (TMJ) การเกร็งของ กล้ามเนื้อบดเคี้ยว, พฤติกรรมที่ทำให้ขากรรไกรทำงานหนักเกินไป เช่น กัดฟัน กัดเล็บ หรือแม้แต่ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการผ่าตัดฟันคุด ซึ่งปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้เกิดการล็อกของขากรรไกร ทำให้เปิดหรือปิดปากได้ไม่เต็มที่ และบางครั้งอาจเกิดอาการปวดร้าวไปยังแก้ม ขมับ หรือคอ

โดยการดูแลและรักษาขากรรไกรค้างที่ Vertex Clinic ไม่เพียงเน้น การบรรเทาอาการชั่วคราว แต่ยังมุ่งเน้น การแก้ไขสาเหตุที่แท้จริง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวขากรรไกรได้เต็มประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการเกิดซ้ำในอนาคต

Scroll to Top