สาเหตุของ ใบหน้าไม่เท่ากัน คืออะไร หน้าไม่เท่ากันวิธีแก้ มีอะไรบ้าง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีใบหน้าที่สมมาตร อวัยวะบนใบหน้ามีขนาดเท่ากัน ส่งผลต่อความงามบนใบหน้า การมีใบหน้าที่ได้รูปอาจเป็นเรื่องปกติของใครหลายๆ คน แต่สำหรับบางคนมีปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันจนเป็นเรื่องที่กวนใจอยู่มาก ทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือสำหรับบางคนอาจสงสัยอยู่ว่าตัวเองหน้าเบี้ยว แต่ยังไม่แน่ใจ จะมีวิธีสังเกตยังไง แล้วสาเหตุของหน้าเบี้ยวไม่เท่ากันมีอะไรบ้าง หน้าไม่เท่ากันวิธีแก้ปัญหาอย่างไรบ้างที่เหมาะสม

จะรู้ได้อย่างไร ว่าเรามี ใบหน้าไม่เท่ากัน

หลายคนอาจสังเกตได้ง่ายว่าตัวเองมีหน้าเบี้ยวไม่เท่ากันอยู่แล้ว หรือรู้ตัวตั้งแต่เด็กแล้วว่ามีใบหน้าที่ไม่สมมาตร แต่สำหรับบางคนอาจไม่ได้สังเกตเห็นง่ายนัก เพราะมีความไม่สมมาตรเพียงเล็กน้อย วิธีสังเกตง่ายๆ คือการมองหน้าตัวเองผ่านกระจก หรือถ่ายรูปหน้าตรงแล้ววิเคราะห์เทียบสัดส่วนของใบหน้าทั้งสองด้านโดยเขีดเส้นแบ่งครึ่งหน้าหรือตามรูปด้านบน แล้วดูว่ามีส่วนไหนที่เบี้ยวไหม เช่น ปากเบี้ยว กรามไม่เท่ากัน โหนกแก้มไม่เท่ากัน หรือแก้มใหญ่ไม่เท่ากันหรือเปล่า เพื่อหาสาเหตุและวิธีแก้ต่อไป

สาเหตุที่ ใบหน้าไม่เท่ากัน?

สาเหตุที่ส่วนต่างๆของ ใบหน้าไม่เท่ากัน นั้น มาจาก 6 สาเหตุใหญ่ๆ ได้แก่

1. กรรมพันธุ์ – หากพ่อแม่หรือญาติมีลักษณะใบหน้าที่เบี้ยวอยู่แล้ว โอกาสที่จะได้รับลักษณะนั้นมาก็สูงตามไปด้วย 
2. การเจริญเติบโตของกระดูก – อายุที่เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้การเจริญเติบโตของกระดูกบางส่วนหยุดไป แต่บางส่วนยังคงดำเนินต่อ จึงอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าที่ไม่สมดุลขึ้นได้
3. ไลฟ์สไตล์ – การนอนตะแคงข้างเดียว เคี้ยวอาหารข้างเดียว หรือเท้าคางเป็นเวลานานๆ สามารถค่อยๆ ส่งผลต่อการเปลี่ยนไปของใบหน้าได้ 
4. ทันตกรรม – ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟัน ใส่ฟันปลอม หรือเคลือบฟัน ก็สามารถทำให้หน้าเบี้ยวได้ งานวิจัย ในปี 2014 จาก Journal of the American Society of Plastic Surgeons ระบุว่าการถอนฟันสามารถเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าไม่สมส่วนได้โดยตรง
5. อุบัติเหตุ – การเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อใบหน้า 
6. โรคบางชนิด – โรคปากเบี้ยว (Bell’s Palsy) หรือจะเป็นโรคคอเอียง (Torticollis) ก็สามารถส่งผลให้หน้าเบี้ยวไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัดโดยตรง 

การป้องกัน ใบหน้าไม่เท่ากันเบื้องต้น

1. เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร – เคี้ยวอาหารโดยใช้ฟันทั้งสองข้าง โดยเฉพาะเลี่ยงการเคี้ยวอาหารเหนียวๆ ข้างเดียว
2. เปลี่ยนพฤติกรรมการนอน – เน้นหงายมากขึ้น เลี่ยงการนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้ การนอนข้างเดียวเป็นเวลานานยังทำให้มีอาการผมร่วง ผมบางข้างเดียว และกล้ามเนื้อตาก็ได้รับผลกระทบด้วย
3. เลี่ยงการกระทบกับแสงแดดข้างเดียว – เลี่ยงการขับรถหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ใบหน้าเราโดนแสงข้างเดียวเป็นเวลานาน เพราะแสงแดดจะทำให้ใบหน้าข้างนั้นๆ รอยย่นกว่า ผิวแห้งกว่า และเหี่ยวเร็วกว่าปกติ 
4. บริหารใบหน้า – การบริหารใบหน้า เช่น การอ้าปาก หรือพูดเสียงอา อี อู สามารถช่วยกระชับกล้ามเนื้อได้
5. ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ – เลี่ยงการยกคิ้ว ดูดบุหรี่ข้างเดียว หรือยิ้มมุมปากบ่อยๆ เพราะนิสัยเล็กๆ เหล่านี้หากทำเป็นประจำจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างไม่ทันรู้ตัว

หน้าไม่เท่ากันวิธีแก้ และการรักษามีอะไรบ้าง

รวมวิธีปรับรูปหน้าให้เท่ากันของ 4 จุดปัญหาใหญ่ที่ทำให้ใบหน้าไม่เท่ากัน

1. โหนกแก้มไม่เท่ากัน

สามารถรักษาโดยการทำศัลยกรรมโหนกแก้ม โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดลดขนาดโหนกแก้ม อาจจะเป็นการตัด กรอ หรือยุบโหนกแก้มขึ้นอยู่กับตำแหน่ง และความสูงของโหนกแก้ม สามารถแก้ปัญหาโหนกแก้มไม่เท่ากันได้อย่างถาวร 

2. แก้มไม่เท่ากัน

ปัญหานี้เกิดจากไขมันกระพุ้งแก้มที่ไม่เท่ากัน สามารถแก้ไขโดยการฉีดและการผ่าตัด

ชมวิดีโอการผ่าตัดลดโหนกแก้มและการผ่าตัดกระพุ้งแก้ม

3. กรามไม่เท่ากัน

สาเหตุของกรามไม่เท่ากัน สามารถเกิดจากทั้งกล้ามเนื้อและกระดูก ดังนั้น จึงต้องเลือกแก้ปัญหาให้ตรงจุด

4. ขากรรไกรเบี้ยว การปรับรูปหน้าให้เท่ากันโดยการเข้ารับการผ่าตัดขากรรไกร เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด เช่น ฟันไม่สบกัน เคี้ยวอาหารไม่สะดวก และได้รับวินิจฉัยแล้วว่ามีปัญหาขากรรไกรเบี้ยว โดยการผ่าตัดขากรรไกรต้องทำร่วมกับการจัดฟันด้วย 

แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าสาเหตุอยู่ที่กรามหรือขากรรไกร?

ในกรณีที่สังเกตยากมากๆ เช่น ฟันยังสบกันดี แล้วสงสัยว่าใบหน้าไม่เท่ากันอยู่เป็นเพราะกรามหรือทั้งขากรรไกรกันแน่ คนไข้จำเป็นต้องเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ และสแกนใบหน้าเพื่อวิเคราะห์จุดที่มีปัญหาได้อย่างแม่นยำ

ปัญหาหน้าเบี้ยวไม่เท่ากันเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากรู้ว่ามีหน้าไม่เท่ากันเพราะอะไรแล้ว จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการปัญหาได้อย่างตรงจุดทำให้สามารถเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับเราที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะการศัลยกรรม ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ และแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น

หน้าไม่เท่ากัน แก้ยังไง?

ผ่าตัดขากรรไกรที่ Vertex Clinic

Vertex Clinic เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางนำโดย หมอตี๊ ทพ.ดร. อมรพงษ์ วชิรมน แพทย์เฉพาะทางด้านปรับโครงหน้า ช่องปาก และแม็กซิลโลเฟเชียล ผู้มีประสบการณ์ด้านการปรับแต่งโครงหน้าและขากรรไกรมายาวนาน รวมไปถึงการผ่าตัดผู้ป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ และการผ่าตัดเพื่อแก้ไขความพิการบนหน้าและกะโหลกศีรษะชนิดรุนแรง (Craniofacial Disorder) อีกทั้งยังเป็น 1 ในทีมแพทย์จากรายการ Let Me In Thailand ตลอดทั้ง 4 ซีซั่น

ผ่าตัดด้วยเทคนิค Nemotec V

นอกจากนี้ เทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดยังเป็นที่พูดถึงและคนไข้ต่างก็ประทับใจ นั่นคือเทคนิค Nemotec V เป็นการนำร่องการผ่าตัดโดยใช้คอมพิวเตอร์ 3 มิติ เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เทคนิคนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถคำนวนหาตำแหน่งที่เหมาะสมในการปรับแก้ได้อย่างแม่นยำ โดยระบบคอมพิวเตอร์ 3 มิติ ทำให้มองเห็นถึงอวัยสำคัญ เช่น เส้นเลือด เส้นประสาท ลดโอกาสการผ่าตัดกระทบกับอวัยวะอื่นๆ ภายในช่องปาก

แพทย์สามารถทำการผ่าตัดตาม 3D Surgical Guide Model  จึงทำให้ผ่าตัดได้รวดเร็ว ลดโอกาสในการเสียเลือดมาก คนไข้มีอาการบวมช้ำน้อยหลังการผ่าตัด นอกจากนี้ คนไข้ยังเห็นรูปจำลองใบหน้าปรียบเทียบก่อนและหลังการผ่าตัด ได้สื่อสารและแสดงความคิดเห็นต่างๆ กับแพทย์ผู้ผ่าตัดให้มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน และรับรู้ตอนการผ่าตัดอย่างละเอียด จึงทำให้ผลลัพธ์หลังผ่าตัดตรงตามแผนและเป็นที่น่าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น

การผ่าตัดโดยใช้  Nemotec V มีความแม่นยำสูง คนไข้จึงไร้เลือดคั่งหลังผ่าตัด จึงไม่จำเป็นต้องใส่สายเดรนเลือด

ผ่าตัดก่อนจัดฟัน (Surgery-first)

นอกจากเรื่องความปลอดภัยที่เราใส่ใจเป็นอย่างมาก ระยะเวลาในการรักษาก็สำคัญเช่นกัน โดยเราคำนึงว่า การผ่าตัดต้องใช้เวลาน้อยที่สุด โดยที่คนไข้สามารถมีใบหน้าที่สมส่วนได้เร็วที่สุด Vertex Clinic จึงใช้เทคนิคการผ่าตัดก่อนจัดฟัน (Surgery-first) เป็นวิธีที่ต่างออกไปจากวิธีดั้งเดิมคือ โดยปกติแล้วคนไข้ต้องจัดฟันถึง 2 รอบ ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด ซึ่งใช้ระยะเวลารวมนานถึง 4-5 ปี แต่วิธีนี้จะช่วยย่นระยะเวลาการรักษาเหลือเพียง 2-3 ปีเท่านั้น คนไข้หน้าเข้ารูปเลยหลังการผ่าตัด ไม่ต้องทนอยู่กับใบหน้าที่ไม่สมส่วนในระยะการจัดฟัน

ผ่าตัดแบบไม่มัดฟัน

การผ่าตัดขากรรไกรแบบไม่มัดฟันเป็นเทคนิคที่อำนวยความสะดวกต่อคนไข้หลังการผ่าตัด โดยที่แพทย์จะเลี่ยงการใช้ยางยึดขากรรไกรบนและล่างติดกันไว้ เพราะการผ่าตัดแบบมัดฟันคนไข้จะไม่สามารถอ้าปากเป็นเวลาหลายวันหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้ขากรรไกรเคลื่อนตัว

ข้อดี ข้อเสีย ของการผ่าตัดขากรรไกรไม่มัดฟัน

ข้อดี

1. ลดความเสี่ยงจากอาการสำลัก หายใจติดขัด
2. เสียเลือดน้อย ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
3. สามารถสนทนากับผู้อื่นได้หลังการผ่าตัด
4. ลดความเสียหายโดยตรงต่อฟัน
5. สามารถทานอาหารได้มากกว่า

ข้อเสีย

หากผ่าตัดแบบไม่มัดฟันโดยเทคนิคที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้รับการผ่าตัดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจทำให้ขากรรไกรเคลื่อนจากตำแหน่งที่จัดวางไว้ และการสบกันของฟันอาจไม่ตรงตามแผน