รีวิวแก้คางสั้น ศัลยกรรมคางเบี้ยว แบบไม่ใช้ซิลิโคนเสริมคาง ตัดกรามทุบโหนกที่ไหนดี
สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อริช่าค่ะ เห็นชื่อกระทู้ว่า ทุบทั้งหน้า!! ทำวีไลน์กับหมอไทย แก้คางสั้น กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง แบบนี้ คงจะพอเดาออกนะคะว่านี่เป็นกระทู้เกี่ยวกับอะไร ใช่ค่ะ! กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวศัลยกรรมค่ะ เอาล่ะริช่าจะมาเล่าประสบการณ์ทำศัลยกรรมปรับโครงหน้า จะเรียกว่าทุบทั้งหน้าเลยก็ว่าได้ หลายคนอาจจะคิดนะคะว่าถ้าทำศัลยกรรมทั้งหน้าจะต้องไปเกาหลีเท่านั้นถึงจะดี คุณคิดผิดค่ะ! ริช่าให้หมอไทยเป็นคนทุบหน้าให้ บอกเลยว่ารีวิวนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังมีความคิดว่า จะเหลากรามที่ไหนดี เหลาโหนกแก้มที่ไหนดี หรือเบิ้ล 2 อย่างทั้งตัดกรามทุบโหนกที่ไหนดีไปเลย หรือแม้แต่กังวลเรื่องราคาว่า เหลากรามราคาเท่าไหร่ บอกเลยว่ารีวิวนี้มีประโยชน์กับทุกๆคนแน่นอนค่ะ
แค่เห็นภาพก็รู้แล้วค่ะปัญหาของริช่าคือโครงหน้าค่ะ กระดูกชัดเจนมาก ทั้งมุมกราม โหนกแก้ม คางสั้น และปัญหาที่ริช่าตัดสินใจทำก่อนเป็นอย่างแรกนั่นก็คือ เหลาโหนกแก้ม หรือ ยุบโหนกแก้ม หรือ ทุบโหนกแก้มนี่แหละค่ะ 5555+
ริช่ายุบโหนกแก้มเมื่อปี 2554 หรือประมาณ 9 ปีที่แล้วค่ะ ซึ่งถ้าย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้ว ก็คงยังไม่ได้มีคลินิกความงามหรือ โรงพยาบาลศัลยกรรมกันเยอะแยะเท่านี้นัก และยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระดูกโครงหน้าแล้ว ยิ่งหาหมอเก่งๆยากขึ้นไปอีก ริช่าหาข้อมูลด้วยตัวเองว่าจะเหลาโหนกแก้มที่ไหนดีและสอบถามเพื่อนๆ กับคนรู้จักมากมาย ซึ่งเราก็ได้รายชื่อคุณหมอ นั่นคือคุณหมออมรพงษ์ วชิรมน Vertex Clinc ค่ะ คุณหมอแกเนี่ยเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในการผ่าตัดศัลยกรรมโครงหน้า ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกต่างๆ นาๆ คือต้องบอกว่าศัลยกรรมโครงหน้าเนี่ยที่ไหนก็ทำสวยที่ไหนก็ทำได้ แต่ที่ๆทำแล้วปลอดภัย และออกมาสวยด้วย คือต้องบอกเลยว่า คือสำหรับตัวริช่าเอง ริช่าบอกเลยว่า ต้องเป็นคุณหมออมรพงษ์เท่านั้นนะคะ
และนอกจากชื่อเสียงและฝีมือคุณหมอแล้วเนี่ย ยังมีในเรื่องของเทคโนโลยีและเทคนิคในการผ่าตัด นั่นคือ Nemotec V เพราะด้วยหน้าที่การงานเนี่ย เราต้องใช้หน้าตาบ่อย ซึ่งเราจะไม่สามารถรับทำการศัลยกรรมที่ใช้เวลาพักฟื้นนานๆ คือไม่ สามารถเลย แต่พอได้คุยกับคุณหมออมรพงษ์ปุ๊บเนี่ย คุณหมอบอกว่าศัลยกรรมแบบนี้ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ที่เดียวที่มีการฟื้น ตัวได้อย่างรวดเร็วมาก โดยที่แบบว่าแปปเดียวจริงๆคือ เราลางานแค่แปปเดียวเนี่ย ต้องบอกว่าตอนแรกก็แบบว่าจริงรึป่าว จนพอได้มาทำเองถึงรู้สึกเลยว่าเฮ้ย! คุณหมอพูดจริง นอกจากตัวเราเองยังมีอีกหลายเคสที่เขามีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อย่าง Amazing จริงๆ
รู้สึกละมุนขึ้น แต่มันยังไม่พอใจค่ะ อย่างที่บอก ปัญหาเราไม่ได้อยู่ที่โหนกแก้มอย่างเดียว ยังมีกรามที่ต้องเหลากราม ยังมีคางที่ต้องแก้คางสั้นอีก และก็จมูกที่ต้องเสริม (ในส่วนของจมูก เราขอข้ามไปนะคะ จะเน้นรีวิวปรับโครงหน้าอย่างเดียวเนอะ)
พอเกาหลีมันเริ่มบูมเนี่ย เราก็เริ่มอยากมีแพลนไปทำศัลยกรรมเกาหลีแบบคนอื่นบ้าง ก็ปรึกษาเพื่อนอยากทำหน้าเรียววีไลน์ ก็ดูรีวิวศัลยกรรมเกาหลีเอยอะไรเอย เกิดกิเลสทันทีจ้า วางแผนจะไปทำกับเพื่อนเนาะ แต่ช่วงนั้นเรายังลางานมากๆไม่ได้ ก็เลยส่งตัวเพื่อนไปทำก่อน ไม่ได้ไปทำรอบเดียวกับเพื่อน ผลปรากฎว่าเพื่อนกลับมา กลายเป็นศัลยกรรมคางเบี้ยว เขาไม่สามารถเคี้ยวข้าวได้ ก็ต้องเป็นงานแก้ และก็เป็นการแบบ..ใช้คำว่ารื้อแผงดีกว่าเนอะ ก็คือว่ารื้อใหม่หมดเลย ซึ่งต้องบอกว่าตอนนั้นเราเองก็วางมัดจำไปแล้วเป็นแสนเหมือนกัน เรายอมทิ้งมัดจำเลย เพราะเรารู้สึกว่า ถ้าเราจะเลือกอะไรให้กับตัวเองทั้งทีเนี่ยจะเลือกที่มันชัวร์ ปลอดภัย ไม่ต้องแก้ ไม่ต้องซ่อม ทำครั้งเดียวจบ ไม่มีงานศัลยกรรมคางเบี้ยวแล้วต้องมาแก้ไขทีหลังอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยกลับมาตายรังกับคุณหมออมรพงษ์ ด้วยเทคนิค Nemotec V แบบเดิมดีกว่าค่ะ
นี่ก็เป็นใบหน้า before ก่อนจะเข้ารับการศัลยกรรมวีไลน์ แก้คางสั้นด้วยการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง ไม่ใช้ซิลิโคนเสริมคาง ให้ดูแบบมีความละมุนแล้วก็ แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้นนะคะ
ต้องยอมรับว่าฝีมือคุณหมอเก่งมาก ตัดกระดูกได้ออกมาเรียบตรงไม่หยึกหยัก ไม่ขรุขระ กระดูกชิ้นเล็กๆคือกระดูกคางที่ตัดออกมาหลังตกแต่งคางเรียบร้อยแล้ว
เรามาอัพเดตให้ดูกันต่อเลย ว่าวิวัฒนาการทางใบหน้าในแต่ละวันๆว่าหลังจากที่ทำศัลยกรรมไปแล้ว แต่ละวันนั้นใบหน้ามีวิวัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง
หลังตัดกราม + แก้คางสั้น (เสริมคางแบบไม่ใช้ซิลิโคนเสริงคาง) ก็ มีตุ่ยๆบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้บวมเวอร์วัง จนแทบออกจากบ้านไม่ได้แบบคนอื่นๆ อ้ออ…ลืมบอก สายเดรนระบายเลือดนี่ไม่มีนะคะ ไม่มีตั้งแต่หลังผ่าตัดเสร็จทันทีเลยค่ะ ดีมากๆ ทำให้เราสะดวกสบาย กินข้าวได้อะไรได้ บ้วนน้ำสะอาดได้ คือถ้าจะไปข้างนอกก็แค่สวมแมสหรือหน้ากากอนามัยคือจบทุกสิ่ง ดูแลง่ายไม่จุกจิกไม่กวนใจ นี่คือข้อดีของการไม่ใส่สายเดรนระบายเลือดค่ะ
บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วไม่ใส่สายเดรนระบายเลือด แล้วไม่บวมไม่ช้ำหรอ แล้วจะระบายเลือดคลั่งออกได้ยังไง อ่ะนี่ค่ะ อย่างที่เห็น บวมช้ำน้อยมากๆอย่างที่เห็น ส่วนเลือดคลั่ง ไม่มีค่ะ เพราะเทคนิค Nemotec V จะมองเห็นเส้นเลือดและเส้นประสาทสำคัญ ทำให้คุณหมอหลีกเลี่ยงได้ เลือดออกน้อย ไม่มีเลือดคลั่ง ไม่มีเลือดเสีย จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องใส่สายเดรนระบายเลือดค่ะ เห็นมั้ย Vertex Clinic สุดปังแค่ไหน คุ้มค่าจนไม่ต้องกังวลเรื่องว่าจะเหลากรามราคาเท่าไหร่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ใครว่าหมอไทยสู้เกาหลีไม่ได้ริช่าขอเถียงขาดใจค่ะ เอาล่ะ ขี้เกียจพิมพ์เยอะแล้ว ไปดูวิวัฒนาการของใบหน้ากันรัวๆดีกว่า
หมั่นรัดซัพพอร์ตหน้าบ่อยๆ เพื่อให้ใบหน้ากระชับขึ้น เห็นผลหน้าเรียวเร็วๆ อีกอย่างลดบวมได้ด้วยนะคะ
ริช่ามีความสุขมากๆ ทำงานออกกล้อง ใช้หน้าได้แบบสบายมากๆ รู้สึกว่าเรากล้าโชว์ทุกมุมในการทำงาน ไม่ต้องหลบ หรือใช้มุมแค่มุมเดียวตลอดเวลา
ริช่าแฮปปี้มากกกก ♥ จะครึ่งปีแล้ว รู้สึกว่าตอนนี้หน้าเข้าที่มาก มีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น มันไม่ใช่แค่ความสวยงาม แต่มันเสริมบุคลิกของเราให้มีความมั่นใจ และเต็มที่กับทุกๆสิ่งโดยที่ไม่ต้องกังวลหรืออายอะไรอีกต่อไป
ใครที่กำลังสนใจอยากทำวีไลน์แบบริช่า หรือกำลังหาข้อมูลเหลากรามที่ไหนดี ตัดกรามทุบโหนกที่ไหนดี เหลาโหนกแก้มที่ไหนดี อยากแก้เพราะศัลยกรรมคางเบี้ยว หรืออยากเสริมคางแบบไม่ใช้ซิลิโคนเสริมคาง (เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง) แนะนำเลยค่ะคุณหมออมรพงษ์ วชิรมน Vertex Clinic เท่านั้น เป็นคุณหมอเก่งมาก ฝีมือจากรายการ Let me in Thailand เพราะคุณหมอเป็นคนแก้โครงหน้าให้ในรายการทั้งหมด ไม่ต้องกังวลเลยค่ะว่าจะเหลากรามราคาเท่าไหร่คุ้มมั้ย เพราะบอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้มค่ะ