
เช็คอาการเสี่ยงเป็นโรคกระดูกขากรรไกรอักเสบ เป็นยังไง
โรคกระดูกขากรรไกรอักเสบ (Osteomyelitis of the jaw) คือ ภาวะที่เกิดการติดเชื้อในกระดูกบริเวณขากรรไกร ซึ่งมักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ลุกลามมาจากฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือแผลหลังการถอนฟัน โดยโรคนี้สามารถลุกลามจนทำลายกระดูกขากรรไกรได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
วิธีสังเกตุอาการกระดูกขากรรไกรอักเสบเบื้องต้น
6 สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
- ปวดกรามเรื้อรังหรือปวดลึกในกระดูกขากรรไกร
อาการปวดที่ไม่หาย แม้กินยาแก้ปวดหรือไม่มีแผลในช่องปาก อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่ลุกลามถึงกระดูก - บวมบริเวณกรามหรือใบหน้า
การอักเสบภายในกระดูกอาจทำให้เกิดอาการบวมบริเวณใบหน้าข้างใดข้างหนึ่ง - รู้สึกเจ็บเวลาเคี้ยวหรืออ้าปากได้ไม่สุด
หากมีอาการติดขัด อ้าปากแล้วเจ็บหรือเคลื่อนไหวขากรรไกรลำบาก ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าไม่ได้มีการติดเชื้อภายใน - มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลียร่วมด้วย
เมื่อการติดเชื้อกระจายเข้าสู่กระแสเลือด อาจมีอาการคล้ายเป็นไข้ เช่น มีไข้ต่ำๆ หรือสูง หนาวสั่น และอ่อนแรง - มีหนอง หรือกลิ่นปากผิดปกติจากตำแหน่งเดิม
การติดเชื้อในกระดูกอาจทำให้เกิดหนองที่ไหลออกจากเหงือกหรือแผลเก่า มีกลิ่นปากแรง แม้ดูแลสุขภาพช่องปากดี - ฟันโยก หรือสูญเสียฟันแบบไม่มีสาเหตุชัดเจน
การติดเชื้อที่ลุกลามถึงกระดูกอาจทำให้ฟันไม่สามารถยึดเกาะได้ และหลุดร่วงในที่สุด
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเป็นพิเศษ
- คนที่เคยถอนฟันหรือผ่าตัดในช่องปาก โดยเฉพาะฟันกรามล่าง
- ผู้ป่วยเบาหวาน ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือรับประทานยากดภูมิ
- ผู้ที่มีโรคปริทันต์หรือมีฟันผุลุกลาม
- ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือมีพฤติกรรมไม่ดูแลสุขภาพช่องปาก
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา จะเกิดอะไรขึ้น?
- การติดเชื้อลุกลาม ทำให้กระดูกตายบางส่วน (Sequestrum)
- กระดูกขากรรไกรบางหรือยุบลง ทำให้โครงหน้าผิดรูป
- สูญเสียฟันถาวรในบริเวณติดเชื้อ
- อาจเกิดฝีในกระดูก หรือโพรงหนองเรื้อรัง
- เสี่ยง ติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด (Sepsis) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต
ทำไมต้องมารักษากับทางVertex Clinic ?
1. ทีมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมขากรรไกร
- มีศัลยแพทย์ช่องปาก (Oral & Maxillofacial Surgeon) และทีมแพทย์ร่วมสหสาขา
- เชี่ยวชาญเฉพาะในโรคของกระดูกขากรรไกร ไม่ใช่แค่ทันตกรรมทั่วไป
- วินิจฉัยลึก ตั้งแต่เหงือก ฟัน ราก กระดูก ไปจนถึงโครงสร้างใบหน้า
2. การวินิจฉัยด้วยระบบภาพขั้นสูง
- ใช้ CBCT (Cone Beam CT) หรือ CT Scan เฉพาะขากรรไกรเพื่อดูการติดเชื้อที่กระดูกแบบแม่นยำและลึกในระดับมิลลิเมตร
- สามารถประเมินการลุกลามของเชื้อ / กระดูกตาย / โพรงหนองได้ชัดเจน
- ลดการวินิจฉัยคลาดเคลื่อนและช่วยวางแผนการผ่าตัดได้ตรงจุด
3. รักษาแบบองค์รวม ไม่ใช่แค่ยาฆ่าเชื้อ
- ประเมินร่วมกับโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ภูมิคุ้มกันต่ำ
- วางแผนร่วมกับการฟื้นฟู เช่น การปลูกกระดูกใหม่ (Bone Graft) หากจำเป็น
- ติดตามอาการระยะยาว ไม่ใช่แค่รักษาเฉพาะจุด
4. การผ่าตัดโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล (Day Surgery)
- ผ่าตัดเอากระดูกเน่าหรือตายออก พร้อมล้างเชื้อ
- ทำโดยทีมแพทย์ประสบการณ์สูงภายใต้ห้องผ่าตัดมาตรฐาน
- ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในโรงพยาบาล และฟื้นตัวเร็ว
5. เทคโนโลยีสนับสนุนการฟื้นฟู เช่น PRF, Laser, Ozone
- ใช้ PRF (Platelet-Rich Fibrin) ช่วยสมานแผลเร็วขึ้น
- เลเซอร์ฆ่าเชื้อและลดการอักเสบในเนื้อเยื่อโดยรอบ
- Ozone Therapy (ถ้ามี) ช่วยกำจัดแบคทีเรียแบบไม่ทำลายเนื้อเยื่อดี
6. การดูแลต่อเนื่องหลังการรักษา
- มีการติดตามผลหลังผ่าตัด หรือหลังใช้ยาฆ่าเชื้อ
- ให้คำแนะนำการดูแลช่องปากสำหรับป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
- วางแผนหากต้องฟื้นฟูใบหน้าหรือใส่ฟันใหม่ในภายหลัง
สรุป
โรคกระดูกขากรรไกรอักเสบอาจเริ่มจากอาการเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม เช่น ปวดกราม หรืออ้าปากไม่สุด แต่หากปล่อยไว้อาจรุนแรงถึงขั้นสูญเสียกระดูกและฟันได้ การสังเกตอาการเบื้องต้นและพบแพทย์ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น คือ กุญแจสำคัญในการรักษาให้หายขาดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
อ่านเพิ่มเติม : Temporomandibular Syndrome