เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง หรือ ซิลิโคน เลือกแบบไหนดี?

เสริมคาง กระดูกตัวเอง

เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง vs ซิลิโคน เลือกแบบไหนดี?

คำถามที่หลายคนสงสัย ที่ว่าการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองดีกว่าการเสริมคางด้วยซิลิโคน จริงไหม การเสริมคางด้วยกระดูกของตัวเอง (Autologous Bone Grafting) กับการเสริมคางด้วยซิลิโคน (Silicone Chin Implant) เป็นทางเลือกที่มีความนิยมในวงการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า โดยทั้งสองวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกวิธีใดนั้นควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความต้องการของผู้ป่วย สภาพร่างกาย และคำแนะนำจากศัลยแพทย์เฉพาะทาง

การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง คืออะไร?

การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง คือการนำกระดูกจากส่วนหนึ่งของร่างกายผู้ป่วย เช่น ขากรรไกรล่างหรือซี่โครง มาใช้เสริมรูปคาง เทคนิคนี้เรียกว่า Genioplasty แบบใช้กระดูกตัวเอง การผ่าตัดจะแบ่งเป็นสองขั้นตอน คือ การเก็บกระดูกและการปรับวางกระดูกบริเวณคาง วิธีนี้ได้รับความนิยมเนื่องจากผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงต่อร่างกายที่เกิดจากวัสดุแปลกปลอม

ข้อดีของการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง

1. ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ

กระดูกของตัวเองสามารถเข้ากับโครงหน้าได้อย่างลงตัว โดยไม่มีลักษณะเป็นก้อนหรือขอบแข็ง

2. เข้ากับร่างกายได้ดี

เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อของตัวเอง ร่างกายจึงไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้านวัสดุ ลดความเสี่ยงต่อการอักเสบและแพ้

3. ความคงทนยาวนาน

กระดูกที่ปลูกจะคงอยู่ถาวรและรวมตัวกับเนื้อเยื่อเดิม ทำให้ไม่ต้องผ่าตัดซ้ำบ่อย

4. ลดความเสี่ยงการเคลื่อนที่ของวัสดุ

เมื่อกระดูกยึดติดกับโครงสร้างเดิมแล้ว จะไม่เคลื่อนหรือบิดตัวเหมือนซิลิโคนบางกรณี

5. สามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตามสัดส่วนที่เหมาะสม

ศัลยแพทย์สามารถตัดและปรับแต่งกระดูกให้เหมาะกับสัดส่วนใบหน้าผู้ป่วยได้เฉพาะเจาะจง

การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและผสานไปกับโครงกระดูกหน้าเดิม
  • ผู้ที่มีปัญหาหรือกังวลเรื่องการแพ้วัสดุสังเคราะห์
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ถาวรและไม่ต้องการผ่าตัดซ้ำในอนาคต
  • ผู้ที่มีปัญหาโครงกระดูกคางหรือขากรรไกรที่ต้องแก้ไขเชิงโครงสร้างร่วมด้วย
เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง

การเสริมคางด้วยซิลิโคน คือ

การเสริมคางด้วยซิลิโคนเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

เนื่องจากขั้นตอนการผ่าตัดง่าย ใช้เวลาน้อย และฟื้นตัวได้เร็ว วัสดุซิลิโคนที่ใช้เป็นเกรดทางการแพทย์ (Medical-grade Silicone) ออกแบบให้เข้ากับรูปหน้าของผู้ป่วยแต่ละคน สามารถเลือกขนาดและรูปทรงได้หลากหลาย

ข้อเสียของการเสริมคางด้วยซิลิโคน

  • มีโอกาสเกิดการเคลื่อนตัวหรือเอียงในบางกรณี
  • ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือร่างกายปฏิเสธวัสดุ
  • อาจต้องแก้ไขหากเกิดการยุบหรือเปลี่ยนตำแหน่ง
  • ในอนาคตอาจจะเกิดภาวะซิลิโคนกัดกินกระดูกจริง
cropped-shot-young-caucasian-woman-with-marking-her-chin-facial-plastic-surgery

เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปคางและเห็นผลลัพธ์เร็ว
  • ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่หรือไม่ต้องการใช้กระดูกตัวเอง
  • ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ในอนาคต

เทียบตารางเสริมคางด้วยกระดูกหรือซิลิโคน

เกณฑ์เปรียบเทียบเสริมคางด้วยซิลิโคนเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง
ความเป็นธรรมชาติขึ้นอยู่กับเทคนิคการวางซิลิโคนธรรมชาติที่สุด เพราะเป็นเนื้อเยื่อของตัวเอง
ความคงทนมีโอกาสเคลื่อนหรือเปลี่ยนรูปได้คงทนถาวร แทบไม่ต้องแก้ไขในอนาคต
ความเสี่ยงเสี่ยงติดเชื้อหรือร่างกายความเสี่ยงต่ำกว่ามาก เพราะใช้เนื้อเยื่อตัวเอง
การฟื้นตัวใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1–2 สัปดาห์ใช้เวลา 3–4 สัปดาห์เพื่อลดบวมและให้กระดูกเชื่อมติด
@thefaceforhealth

กระดูกจริงโดนกัดกิน! จากซิลิโคนที่เสริมมา…💢 💬𝐓𝐚𝐥𝐤 𝐚𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐎𝐑 กับ ทพญ.ยุวนุช ( #หมอแพรVertex ) วันนี้ขอเสนอ “เคสแก้” เคยผ่าตัด “เสริมคางด้วยซิลิโคน” จากที่อื่นมา เกิดปัญหาซิลิโคนเก่าละลายกระดูก เกิดเป็น “ภาวะซิลิโคนเกาะกินกระดูก” อาจมีความอันตรายในอนาคต ❣️แก้ไขโดย “ตกแต่งคาง ด้วยกระดูกตัวเอง” ด้วยเทคนิค 𝗡𝗲𝗺𝗼𝘁𝗲𝗰 𝗩 นำร่องแผนผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ 3 มิติ ✅จำลองโมเดลก่อนผ่าตัด (𝟑𝐃 𝐒𝐮𝐫𝐠𝐢𝐜𝐚𝐥 𝐆𝐮𝐢𝐝𝐞) ✅เห็นภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังทำ ✅บวม ช้ำ น้อย ไร้สายเดรน **ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับโครงหน้าของแต่ละบุคคล** 𝑴𝒐𝒓𝒆 𝑻𝒉𝒂𝒏 𝑩𝒆𝒂𝒖𝒕𝒚 : 𝑩𝒆 𝑯𝒆𝒂𝒍𝒕𝒉𝒊𝒆𝒓 #Vertexclinic #คลินิกเวอเทค #เทคนิคแผลเล็ก #NemotecMIS #เทคนิคNemotecV #NemotecV #ปรับโครงหน้า #ศัลยกรรม #ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต #หน้าเบี้ยว #คางสั้น #คางเล็ก #เสริมคาง #เสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง

♬ original sound – เวอร์เทค คลินิก – The Face by Vertex

ทำไมควรเลือกทำเสริมคางที่ Vertex Clinic

1. แพทย์เฉพาะทางด้านโครงหน้าและศัลยกรรมใบหน้า

  • ทีมแพทย์ของ Vertex Clinic มีประสบการณ์ผ่าตัดเสริมคางทั้ง กระดูกตัวเองและซิลิโคน
  • เน้นการวิเคราะห์โครงหน้าแบบ 3D Facial Analysis เพื่อออกแบบคางให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

2. เทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก (Minimally Invasive)

  • แผลเล็ก บวม ช้ำน้อยและฟื้นตัวเร็ว
  • ลดความเสี่ยงการติดเชื้อและการเห็นขอบซิลิโคน
  • ช่วยให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ

3. อุปกรณ์และวัสดุคุณภาพสูง

  • ซิลิโคนเกรดการแพทย์ และคงรูป
  • การใช้กระดูกตัวเองได้รับการวางแผนอย่างละเอียด ลดความเสี่ยงการสลายตัวของกระดูกจริงที่เกิดจากการถูกกัดกินจากซิลิโคน

4. การติดตามผลและการดูแลหลังผ่าตัด

  • Vertex Clinic มีการติดตามผลระยะยาว
  • ให้คำปรึกษาตลอดทั้งก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด

5. มีประสบการณ์และรีวิวที่น่าเชื่อถือ

  • ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับผลลัพธ์หลังทำ
  • ทีมแพทย์มีประสบการณ์หลายเคส

สรุป

หากต้องการผลลัพธ์เร็ว และปรับแก้ได้ง่าย ซิลิโคนเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าต้องการคางที่ดูเป็นธรรมชาติ ถาวร และไม่เกิดภาวะซิลิโคนกัดกินกระดูกจริง การเสริมด้วยกระดูกตัวเองจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อวิเคราะห์โครงหน้าและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการของคุณมากที่สุด

Scroll to Top