รีวิวตัดกราม แบบผ่าครั้งแรกก็ปังเลย ไม่เจ็บไม่บวม กินข้าวอร่อยสุดๆ

สวัสดีครับขออนุญาติแนะนำตัว ผมชื่อ กิติพันธ์ (พี) วันนี้ตั้งใจจะมาเขียนรีวิวเกี่ยวกับการตัดสินใจทำศัลยกรรมครั้งแรกของผม ซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ซะด้วย นั่นก็คือ “การผ่าตัดกราม” อันนี้จะเป็นการรีวิวแบบเรียลสุดๆตั้งแต่การ Consult กับคุณหมอถึงตอนที่ทำเสร็จ รวมถึงหลังทำไปแล้วประมาณ 2 เดือนครับ

อย่างแรกเลยต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนกรามใหญ่มาก ถ้าเห็นรูปแล้วจะตกใจครับ เดี๋ยวผมแปะรูปให้ดู

ก่อนผ่าตัดกราม กรามใหญ่จนเขินเลยครับ5555

นี่ครับ หน้าใหญ่มากกเป็นสี่เหลี่ยมเลยก็ว่าได้  เรื่องความสนใจที่จะตัดกรามผมก็คิดมาตลอดนะว่าจะตัดดีไหม แล้วตัดที่ไหน เพราะผมเป็นคนเลือกเยอะ จะทำทั้งทีก็อยากให้ปังไปเลย

สาเหตุที่ทำให้ผมอยากตัดกราม ก็เพราะผมทำงานด้านการตลาด ต้องออกไปเจอลูกค้าบ่อย และมีเข้ากล้องบ้าง เราไม่มั่นใจเลยเพราะหน้ามันเต็มจอเกินไป

ผมเริ่มหาข้อมูลจนมาเจอที่ Vertex  Clinic ดูรีวิวตัดกรามต่างๆที่เพจอัพเดตลง และสนใจอยากผ่าตัดกับคุณหมออมรพงษ์ หรือคุณหมอตี๊ นั่นเองครับ

เอาจริงๆที่เลือก Vertex ไม่ใช่แค่เพราะคุณหมอตี๊เป็นคนผ่าตัดนะครับ แต่ที่ Vertex เค้ายังมีเทคนิค Nemotec V ซึ่งเดี๋ยวผมจะมาลงลึกส่วนนี้อีกทีนึง

ด้วยความที่ตั้งใจอยากตัดกราม เลยลองทักมาถามราคา ส่งรูปประเมินออนไลน์และเคยเข้ามาปรึกษากับคุณหมอโดยตรงที่คลินิกแล้ว 1 ครั้ง บอกตรงๆว่าก็ต้องพับโปรเจคลงก่อน เพราะราคาค่อนข้างสูงเลยครับ

แต่…เหมือนฟ้ามีตา ติดตามมานานเป็นปีๆก็มาเจอโปรพิเศษที่แบบ เห้ยยยยต้องจองแล้ว พร้อมโอน เงินในบัญชีสั่นไปหมด

เจอโปรนี้เลยครับ “กล่องสุ่มศัลยกรรม” โดยมีคุณหมอตี๊เป็นคนผ่าตัดเองทุกเคสที่มาร่วมกิจกรรมครับ โดยผู้ที่ CF จะต้องป็นเคสรีวิวของ Vertex Clinic ไม่ว่าจะรีวิวตัดกราม หรือเสริมหน้าผาก ตามรายการที่เราได้ทำ

ในกิจกรรมนี้ จ่ายเงินเพียง 100,000 บาท แต่สามารถทำได้หลายอย่างเลยผมว่ามันคุ้มมากๆ แต่ก็….มันชื่อว่ากล่องสุ่ม เพราะฉนั้นเราอาจจะไม่ได้ตัดกรามก็ได้นะครับ เนื่องจากคุณหมอจะเป็นคนประเมินใบหน้าเองว่าคนไข้ต้องทำอะไรบ้าง เราไม่สามารถเลือกได้ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่ายังไงก็ต้องได้เป็นเคสรีวิวตัดกรามแน่นอน เพราะดูหน้าผมด้วยว่าใหญ่แค่ไหน 555555

เนื่องจากว่าผมอยากตัดกรามเลยสนใจ สวย1 และตั้งหน้าตั้งตารอ live สดจากทางคลินิก

และแล้วฟ้าก็มีตาอีกครั้ง5555 ผมได้เป็นผู้โชคดีจากกิจกรรมกล่องสุ่มครับ ดูไลฟ์จบปุ๊บโอนปั๊บแบบไม่ลังเล เพราะส่งรูปให้คุณหมอประเมินเรียบร้อยแล้ว คุณหมอแจ้งว่าสามารถทำได้ แต่ก็ยังไม่ได้บอกนะว่าได้ทำอะไร ทางคลินิกบอกแค่ว่าไว้มาเซอร์ไพรส์ตอนวัน Consult ทีเดียว ผมนี่ตื่นเต้นสุดๆ เงินแสนได้หายจากบัญชีไปแล้ว!!

ผมเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่คลินิกเป็นเคสแรกของผู้ร่วมกิจกรรมเลยครับ ก็คือวันที่ 08/01/65 ตื่นเต้นมากอยากรู้แล้วว่าผู้ชายหน้าเหลี่ยมคนนี้จะได้ทำอะไร?

พอเดินทางมาถึงที่คลินิก ก็มีพนักงานคอยต้อนรับอย่างดี นั่งรอสักแปปก็ไดเข้าไป Ct Scan หน้า เพื่อดูกระดูกของเรา

ตามภาพข้างล่างนี้เลยครับ

กรามใหญ่แบบตกใจ!! พอเห็นผล CT ก็ดูรู้เลยว่าไม่ได้แก้มใหญ่ แต่กรามใหญ่ ต้องได้เป็นเคสรีวิวตัดกรามแล้วแหละ แอบภาวนาในใจ เพราะเราไม่ได้อยากทำอย่างอื่นเลย แค่ยากหน้าเรียว555555

ภาพ Nemotec V ที่เราจะได้เห็น เวลาปรึกษากับคุณหมอ

ถึงเวลา Consult ได้เข้ามาเจอคุณหมอตี๊อีกครั้ง คุณหมอก็จับๆหน้าแล้วก็ ให้ดูภาพ Nemotec V ว่าโครงหน้าของเราเป็นแบบไหน และแผนการรักษาจะเป็นในทิศทางไหน

ผลสรุปก็คือว่า ผมได้เป็นเคสรีวิวตัดกรามสมดั่งใจจริงๆ เพราะกรามใหญ่มาก คุณหมอยังพูดเลยว่ากรามใหญ่ ถ้าตัดออกหน้าจะอปป้ามาก ทำเอาผมลอยและยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว ซึ่งภาพที่ให้ดูนี้คือภาพที่คุณหมอจำลองก่อนและหลังทำให้ดูว่าจะตัดออกมาเท่าไหร่ หน้าเราจะเล็กลงแค่ไหน ซึ่งมันดีมากจริงๆ

แค่นี้ยังประทับใจไม่พอ คุณหมอใจดีแถมตัดกล้ามเนื้อกรามให้อีก 1 อย่าง OMG!! ขอบคุณ Vertex มากที่ทำโปรนี้ขึ้นมา

เทคนิคที่ทาง Vertex Clinic ใช้ คือ Nemotec V เหมือนที่ได้กล่าวไปข้างต้น

เทคนิคนี้จะทำให้คุณหมอมองเห็นเส้นประสาทสำคัญ เพื่อที่เวลาผ่าตัดจะไม่ทำให้โดนจุดสำคัญบนใบหน้า และไม่มีสายเดรนเลือด บวมช้ำน้อย เนื่องจากเรามีการวางแผนผ่าตัดมาแล้ว ซึ่งนี่ก็นับเป็นอีกข้อนึงที่ทำให้ผมไว้ใจ Vertex

ส่วนในจอที่เห็นนี้จะเป็นภาพที่คุณหมอเอาหน้าของเรามาเทียบให้ดูว่าถ้าตัดออกมาทรงหน้าของเราจะได้ประมาณไหน เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้นมาอีก เรียกว่าภาพ Crisalix (คริซอลิค) ผมชอบมาก

วันนี้ผมเข้ามามาดูแผนกับคุณหมอ และวางแพลนลางานเพื่อเตรียมเข้าผ่าตัดกราม + ตัดกล้ามเนื้อกราม

ผมได้คิวผ่าตัดวันที่ 19/1/65  ก่อนการผ่าตัดเราต้องไปตรวจร่างกายและโควิดทีโรงพยาบาลก่อนนะครับ ทางคลินิกจะมีใบมาให้ว่าเราต้องตรวจอะไรบ้าง

และหลังจากพบคุณหมอเสร็จ ก็มีไปถ่ายคลิปสัมภาษณ์ความรู้สึกต่อ ทุกคนสามารถไปชมคลิปได้ที่ลิงค์ด้านล่างสุดนะครับ

และแล้วช่วงที่ผมตื่นเต้นที่สุดก็มาถึง วันที่ 19/1/65 ผมเดินทางมาที่คลินิกแต่เช้า เพื่อเริ่มการผ่าตัดเวลา 7:00 น. คุณหมอเริ่มผ่าตัดจริงๆเวลา 7:30 เพราะต้องรอผมสลบก่อน ความรู้สึกมันจะเคลิ้มๆและหลับไปเอง

อ๊อ ลืมบอกว่าที่ Vertex เค้าใช้วิสัญญีแพทย์ดมยาสลบแบบ 1 ต่อ 1 – เทคนิค Ambulatory Anesthesia ที่คนไข้ 99% ยืนยันว่าไม่มีอาการมึนงงหลังการผ่าตัด คือแบบมันดีมาก

โอ้มายยย!! ชิ้นกรามแบบเบ้อเร่อเบ้อร่า กล้ามเนื้อก็เช่นกัน

อันนี้จะเป็นภาพบรรยากาศในห้องผ่าตัดที่ทางคลินิกถ่ายเอาไว้ครับ กรามชิ้นใหญ่มากกกก กล้ามเนื้อกรามก็ใหญ่ การผ่าตัดใช้เวลาเพียง 45 นาที – 1 ชั่วโมง เท่านั้น!! ทุกอย่างเสร็จไวมาก อย่างที่บอกว่าเป็นการผ่าตัดกรามรีวิวแบบเรียลๆ ผมจะไม่อวยใดๆนะครับ ดีบอกดี

ตื่นมาอีกทีตอน 11 โมง บอกตามตรงว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ในใจคิดว่าหมอมือเบาขนาดนั้นเลยหรอ แต่หรือเพราะอาจจะยังชาอยู่

ตื่นมาปุ๊บก็มีเจ้าหน้าที่นำอาหารมาให้ทาน ผมทานได้แบบไม่รู้สึกเจ็บเลยทุกอย่างโอเคมาก และเตรียมตัวกลับบ้านได้

ก่อนกลับบ้านเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาขอไลฟ์สดหลังจากการผ่าตัด ผมสามารถพูดได้ปกติแบบไม่มีปัญหา

แค่รู้สึกตึงนิดหน่อย เนื่องจากมีผ้ารัดหน้าไว้

ตัวช่วยลดอาการบวมของแผลได้ดียิ่งขึ้น ผู้ชายหน้าเหลี่ยมคนนี้จะหน้าเรียวแล้วนะครับ แต่อดใจรอนิดนึงนี่เพิ่งวันแรก ><

สภาพตอนนี้ หน้าค่อนข้างบวมเหมือนตอนยังไม่ตัดกรามเลยครับ5555555 แต่เอาจริงๆผมว่ามันบวมน้อยนะ และไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ อาการเหมือนเดิมคือตึงๆ

ในส่วนของวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากทำ Smart light เสร็จก็กลับบ้านได้ แต่เดี๋ยวคุณหมอก็จะนัดเข้ามาอัพเดทเรื่อยๆครับ

ถ้าเทียบกับที่ผมเคยเห็นรีวิวตัดกรามจากที่อื่นมา ผมแอบคิดนะว่าเราบวมน้อยมากและเริ่มเห็นแล้วว่าหน้าเล็กลง คือจับไปไม่มีกราม ไม่มีก้อนกล้ามเนื้อแล้วก็รู้สึกดีครับ เหลือแค่รอยุบบวมอย่างเดียว

อันนี้เป็นรูปที่ผมถ่ายเอาไว้นะครับ ไม่ได้เข้ามาพบคุณหมอ 3 วันหน้าก็ยังมีบวมอยู่ เข้าใจได้ครับ

ผมพยายามถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้ และอัพเดทส่งให้คุณหมอดูว่าไม่มีอาการอะไรผิดปกติเลย ส่วนผ้ารัดหน้านี่ผมแนะนำคนที่ตัดกรามควรจะใส่ผ้าอันนี้ไว้นะครับ เป็นตัวช่วยลดบวมได้ดีเลยหละ

ผ่านไปไวเหมือนโกหก หน้าผ่านไป 14 วันแล้ว หน้าผมเรียวขึ้นแบบมาก ที่นี่เค้าบวมน้อย ช้ำน้อย และยุบบวมไวจริงครับยอมรับเลย รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือกตัดกรามที่ Vertex Clinic

เพราะแค่ 14 วัน ยังมีคนทักเลยว่าหน้าเล็กลง แค่นี้ก็รู้สึกคุ้มกับเงินที่เสียไปแล้วครับ55555

รอมานาน ตอนนี้ก็ 2 เดือนแล้ววว จากผู้ชายหน้าเหลี่ยมคนนั้น ตอนนี้หน้าเรียวแล้วนะครับ เข้ามาพบคุณหมอวันนี้
คุณหมอแจ้งว่าเดี๋ยวจะเรียวลงอีก หน้าเราจะเริ่มคงตัวที่ 3 – 6 เดือนโดยประมานครับ แล้วแต่คน
ผมนี่ว้าวเลยเพราะหน้าตอนนี้คือดีมากชอบมาก ถ้าจะเรียวกว่านี้อีกก็ไม่ติดครับ
“พูดถึงเราก็หล่อเหมือนอปป้าอยู่นะว่าไป”

---

ยังไงผมจะมาอัพเดทเรื่อยๆนะครับว่าหน้าจะเล็กลงถึงไหน การผ่าตัดกรามครั้งนี้มันเป็นอย่างที่ผมหวังไว้จริงๆว่าอยากตัดแล้วจบเลย

หลายคนอาจตั้งคำถามว่าฉีดโบก็ลงเหมือนกัน และก็มีเพื่อนผมแนะนำเยอะมากคลินิกฉีดโบต่างๆ แต่เอาจริงๆหน้าผมต้องฉีดเท่าไหร่ครับถึงจะลง และต้องฉีดตลอดๆ ส่วนตัวไม่ค่อยมีเวลาว่าง เลยเลือกมาตัดกรามถาวรเลยดีกว่าครับ

พิมพ์มาถึงตรงนี้ผมรู้สึกดีมากที่ได้มาบอกเล่าเรื่องราวการทำศัลยกรรมครั้งแรกที่ปังสุดๆ

การผ่าตัดกรามรีวิวครั้งนี้ ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะ ก่อนจากกันไปมาดูรูปเทียบ ก่อนทำ – หลังทำชัดๆกันหน่อย

สำหรับใครที่ยังลังเลอยู่ว่าอยากมาตัดกรามที่ Vertex ดีมั้ย สามารถเข้ามาอ่านรีวิวตัดกรามที่ผมเขียนได้นะครับ หรือรีวิวของคนอื่นๆก็ได้ครับ เพื่อประกอบการตัดสินใจ หรือดูผ่าตัดกรามรีวิวได้ที่หน้าเพจ >>

Vertex Clinic ผู้นำศัลยกรรมโครงหน้าขากรรไกรและทันตกรรม | Facebook

ผมส่องเพจทุกวัน รอว่าวันไหนจะมีโปรเด็ดๆ555555

ที่นี่เค้าลงเคสผ่าตัดเกือบทุกวัน คุณหมอผ่าตัดไม่พักบ้างหรอบางทีผมก็งง?
อย่าลืมหละ ถ้าอยากหน้าเรียวไม่ต้องลังเลแล้ว อ่านมาถึงจุดนี้ได้ต้องนัดปรึกษาแล้วนะ

ฝากติดตามผมด้วยนะครับ ยังไงจะมาอัพเดทเรื่อยๆ 3 เดือน 4 เดือน หรือครบ 1 ปี ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ

รีวิวตัดกรามของคนที่ผมเคยเข้าไปอ่าน

ปรึกษาปัญหา “กรามใหญ่”

ส่งรูปประเมินฟรีได้ที่นี่!!